CARL ZEISS จากท้องแลปเล็กๆสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมเลนส์ระดับโลก
เชิญคุณมาเรียนรู้ร่วมกันว่า...ร้านค้าและผู้บริโภค
จะได้รับประโยชน์จากแบรนด์ ZEISS ได้อย่างไร
ณ เมืองเจน่า ประเทศเยอรมนี จากจุดกำเนิดในปี ค.ศ. 1846 หรือกว่า 200 ปีที่ Mr. Carl Zeiss และ นักคณิตศาสตร์ฟิสิกส์ Mr. Ernst Abbe ได้ก่อตั้งห้องแลปสำหรับคิดค้นอุปกรณ์เกี่ยวกับเลนส์ที่มีความละเอียดสูง จนมาถึงปัจจุบันที่ ZEISS ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมเลนส์ และ Optoelectronics อย่างกาคภูมิ ปัจจุบัน ZEIรร มีพนักงานทั่วโลกมากถึง 25,000 คน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโอเบอร์โฮเคน ประเทศเยอรมนี และมีสำนักงานย่อยในอีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลก จนกล่าวได้ว่า ZEIรร เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเลนส์ระดับโลกอย่างแท้จริง ZEISS คือ หนึ่งในบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง และ ได้รับการยอมรับสูงที่สุดในอุตสาหกรรมเลนส์และแว่นตาทั่วโลก แบรนด์ ZEISS ถือเป็นแบรนด์
ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพ และ มาตรฐานมากที่สุดจากจักษุแพทย์ และนักทัศนมาตร ผู้ปฏิบัติงานทางสายตา เจ้าของร้านค้าไปจนถึงผู้บริโภคทั่วโลก ZEISS ยังคงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาเทคโนโลยีต่อไปเรื่อยๆ เหมือนเช่นที่เคยทำมาตลอ200 ปี
ZEISS Success Story
...ความสำเร็จของ ZEIรร ส่วนหนึ่ง
เกิดจากการที่เราเป็น FOUNDATION
ปัจจุบัน The CARL ZEISS Foundation เป็นผู้ถือหุ้นหนึ่งเดียวใน CARL ZEISS AG และ SCHOTT AG โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโอเบอร์โฮเคน และ เมืองเมนซ์ การที่ ZEISร จดทะเบียนเป็น FOUNDATION (หรือมูลนิธิ) ทำให้ ZEISS มีความยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว
เนื่องจากไม่สามารถถูกซื้อหุ้นหรือถูกควบรวมกิจการได้โดยง่าย The CARL ZEISS Foundation ถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1889 โดย Ernst Abbe โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณะประโยชน์ของผู้บริโภคทั่วโลก ZEเรร ต้องการที่จะพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน Optic และ Optoelectronics ให้ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ เพื่อประโยชน์ของทุกๆ คนทั่วโลก และเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์นี้ ZEIรร จะนำเอากำไร
ที่ได้จากการประกอบธุรกิจในทุกๆปี หมุนคืนกลับไปในแผนก Research and Development ดังนั้นการที่ ZEIรร เป็น FOUNDATION คือ องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียวจึงทำให้ในทุกๆ ปี ZEIรS มีการลงทุนในเรื่องของ Research and Development
ซึ่งไม่มีบริษัท ใดในโลกที่สามารถทำได้
Coating by ZEISS
DuraVision Platinum
เลนส์เคลือบแข็งที่สุดเท่าที่เราเคยผลิตมา โดยการเคลือบผิวเลนส์มากที่สุดถึง 9 ชั้น ระบบ Multi-layer AR coating ที่มีคุณสมบัติการตัดแสงสะท้อนที่ดีที่สุด รวมกับเทคโนโลยี "Ion Bombardment" ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการเคลือบผิวทับซ้อนลงไปเพียงอย่างเดียว ทำให้ Coating ทั้ง 9 ชั้นติดแน่นประสานเป็นเนื้อเดียว
การ Coating ของเลนส์ทั่วๆไป:
จุดเชื่อมต่อของชั้น Coating ต่างๆไม่ได้ติดแน่นประสานกันเป็นเนื้อเดียว จนเป็นเนื้อเดียว
สำหรับ DuraVision Platinum: ชั้น Coating ต่างๆ เชื่อมประสานกันจนเป็นเนื้อเดียว ทำให้มีความแข็งมากขึ้นอย่างชัดเจน
DuraVision Platinum + Blue Protect
เป็นเลนส์ป้องกันแสงสีน้ำเงินที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
-
ลดปริมาณแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายเข้าสู่ดวงตามากถึง 15% (BPI=15)
-
ปล่อยให้แสงสีฟ้าที่จำเป็นต่อร่างกายผ่านเลนส์ได้ปกติ
-
เลนส์มีความใสมากกว่าเลนส์ป้องกันแสงสีน้ำเงินทั่วไปในท้องตลาด
-
มีค่าความเหลืองน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับเลนส์ในท้องตลาด
-
(Yellowness D1925 C.2 < 10.0)
DuraVision DriveSafe
คือเทคโนโลยีการ Coating แบบใหม่ ที่เป็นสิทธิบัตรของ ZE1Sร สามารถลดการรบกวนจากแสงไฟจ้าได้มากถึง 64%
ลดแสงจ้าที่มาจากไฟท้ายรถคันหน้า, ไฟจากรถที่ขับสวนมา หรือ ไฟบนท้องถนน
ชนิดเลนส์
เลนส์ชั้นเดียวจาก ZEISS เป็นเลนส์สำหรับสายตาสั้น และสายตายาวที่ดีที่สุด โดย ZEISS มีเลนส์ชั้นเดียวให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เลนส์สายตาสั้นยาวธรรมดา ไปจนถึงเลนส์เฉพาะบุคคล
> TIPs สะหรับการเลือกเลนส์ชั้นเดียว
เลนส์โปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟที่ให้การมองเห็นที่ดีที่สุดที่ คมชัด สบายตา ปรับตัวง่าย
> วิธีการเลือกเลนส์โปรเกรสสีฟ
> ดูเลนส์โปรเกรสสีฟของ ZEISS ทั้งหมด
Digital Lenses
อาการตาล้าจากอุปกรณ์ดิจิทัล (Digital Eye Strain) มักเกิดกับคนที่อายุ 30 ปี ขึ้นไป สาเหตเกิดจากความสามารถในการเพ่งลดลงตามวัย Digital lens จะช่วยลดอาการตาล้าจากอุปกรณ์ดิจิทัลได้เป็นอย่างดี
สำหรับผู้สวมใส่คอนแทคเลนส์
เลนส์แว่นตาที่ออกแบบมาเพื่อการรีเฟรชดวงตาหลังการสวมใส่คอนแทคเลนส์
DriveSafe Lenses
เลนส์เพื่อการขับรถ
หลายๆคนพบว่าการขับรถขณะแสงน้อย หรือเวลาฝนตก เป็นเรื่องยากกว่าปกติ หากคุณรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมเหล่านี้ทำให้คุณขับรถยากขึ้น เลนส์ไดรฟเซฟอาจเป็นคำตอบสำหรับคุณ
Office Lenses
เลนส์ที่ให้การทำงานในออฟฟิศเป็นสบายตามากขึ้น
ระหว่างวันหากคุณใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วมีอาการปวดเมื่อยคอเป็นประจำ อาการเหล่านี้เกิดจากการใช้เลนส์ผิดประเภท
